Skip to main content

คุณสมบัติของผู้ที่เรียน ESOL – Skills for Life ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ESOL บทความลำดับที่ 1
คุณสมบัติของผู้ที่เรียน ESOL – Skills for Life ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
บทความโดย Aphrodite
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลให้คนไทยที่ถือพาสปอร์ตไทยและกำลังจะขอ ILR และจะสอบ Life in the UK Test หรือกำลังตัดสินใจจะเรียน ESOL – Skills for Life
ESOL – ย่อมาจาก English for Speakers of Other Languages

เป็นหลักสูตรการเรียนการสอน การสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่ออกแบบโดยมหาวิทยาลัย Cambridge สร้างขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่

ESOL นั้นแยกย่อยลงไปตามจุดประสงค์ของการใช้งาน ใหญ่ๆ ได้ 3 ประเภท ได้แก่
ประเภทของ Cambridge ESOL
1. สำหรับจุดประสงค์ทั่วไปและให้นักเรียนในโรงเรียนที่ต้องการวัดระดับภาษาอังกฤษ  หากดูจากภาพ คุณจะเห็น Skills for Life ตัวนี้ใช้กับการศึกษาผู้ใหญ่ (Adult Educations) สำหรับคนต่างชาติและคนอังกฤษเองที่ไม่ได้จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เทียบ(เกือบ)เท่า ม. 6 ของไทย ทั้งนี้เรียนเพื่อให้ได้วุฒิการศึกษาขั้นต่ำ (GCSE) เพื่อนำไปใช้ทำงานในอังกฤษ
2. สำหรับการวัดระดับเพื่อนำไปศึกษาต่อและนำไปประกอบอาชีพ หากสังเกตจากภาพ คุณจะเห็นตัวที่คนไทยคุ้นเคยคือ IELTS ตัวนี้สำหรับคนต่างชาติที่ต้องการเรียนต่อหรือทำงาน  เรื่องนี้จะนำมาเสนอต่อไปสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานในอังกฤษหรือประเทศอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรอย่างเร่งด่วน โดยไม่ต้องรอได้วุฒิ GCSE ตามระบบอังกฤษ
3. สำหรับนำไปสอนภาษาอังกฤษให้แก่ผู้เรียนที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ เรื่องนี้จะนำเสนอเป็นบทความเฉพาะต่อไปสำหรับผู้ที่สนใจจะสอนภาษาอังกฤษให้คนต่างชาติ
เหตุใคนไทยจึงควรไปเรียน ESOL – Skills for Life
สาเหตุที่คนไทยส่วนใหญ่ที่้แต่งงานกับชาวอังกฤษหรือบริติช แล้วต้องการ เรียน ESOL นั้นก็เพื่อนำใบประกาศนียบัตรไปยื่นประกอบการขอ ILR – Indefinitely Leave to Remain ที่จริงแล้วนั้น การไปเรียน ESOL มีประโยชน์มากกว่านั้นมาก
ประโยชน์ของการเรียน ESOL – Skills for Life
1. เรียนเพื่อเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมอังกฤษ เพื่อนำไปใช้สอบ Life in the UK Test
2. ต้องการวุฒิการศึกษาที่ได้เพื่อนำไปสมัครงานหรือเลื่อนเงินเดือน เรียกว่า Literacyและ Numeracy และ ICT
3.ต้องการบุคคลอ้างอิงในกรณีที่ต้องการนำไปสมัครงาน ครูผู้สอน ESOL ให้คุณสามารถเป็น Reference ให้คุณได้ (แต่ต้องรอให้เรียนไปจนเกินครึ่งหรือให้ครูเห็นความสามารถและความรับผิดชอบของคุณก่อน)
4. ต้องการมีเพื่อนชาวต่างชาติ เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการอาศัยทำงานในอังกฤษ
5. ต้องการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและออกเสียงภาษาอังกฤษให้ชัดขึ้น
6. เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
7. เมื่อสมัครเรียน คุณจะได้บัตรนักศึกษา คุณสามารถนำบัตรนั้นไปใช้ในการขอส่วนลด ค่ารถโดยสาร(เมล์
)
ทำอย่างไรคุณจึงจะเรียน ESOL – Skills for life ฟรี
หลายคนที่ไม่มีข้อมูลเรื่องการเรียน ESOL หรือคิดว่าการเรียน ESOL เป็นเรื่องของคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษเท่านั้น อาจจะละเลยและไม่สนใจที่จะเรียน และ/หรืออาจไปสอบ Life in the UK Test ก่อนเเพื่อจะดูผลการสอบแล้วจะได้ไม่ต้องไปเรียน เนื่องจากคิดว่า การสอบ Life in the UK Test นั้นมีค่าสอบเพียง 50 ปอนด์ แต่หากไปเรียน ESOL ต้องเสียค่าเรียนถึง 350 ปอนด์
รัฐบาลอังกฤษพรรค Conservaative ตั้งใจจะตัดงบการเรียน ESOL  ฟรี
ที่จริงแล้วคุณสามารถเรียน ESOL  ได้ฟรี โดยเสียเพียงแค่ค่าสอบและค่าใบประกาศ แต่คุณต้องมีคุณสมบัติ 4 ข้อ ต่อไปนี้
1. อาศัยอยู่ในอังกฤษมาอย่างน้อย 1 ปี ด้วยวีซ่าติดตามคู่สมรส(Spouse Visa) วีซ่าแต่งงานที่เปลี่ยนเป็น Residence Permit แล้ว และหรือคนที่มี Work Permit ด้วยเหตุนี้ หากคุณไปเรียน ESOL เมื่อเข้าปีที่ 2 ที่คุณมาอยู่ใน UK คุณก็ยังมีเวลาอีก 1 ปี ที่จะเรียนเพื่อให้ได้ใบประกาศในกรณีที่ภาษาอังกฤษของคุณต่ำกว่า Entry 3
2. ต้องเป็นผู้ที่กำลังหางานหรือทำงานไม่เกิน สัปดาห์ละ 16 ชั่วโมง
3. ต้องมี National Insurance No. (NI NO.) คลิกเพื่ออ่าน การขอ NI No.
4. เมื่อเรียนจบแล้ว ต้องหางานทำ หรือสามารถพิสูจน์ได้ว่าจะหางานทำแน่นอน ในการตอบคำถามข้อนี้ขอให้คุณเข้าใจว่า คำว่างานนั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เช่น หากคุณตอบว่าเรียนเสร็จแล้วจะไปเป็นพยาบาล หมอ นักกฎหมาย หรือครู คุณก็ต้องได้รับปริญญาจากเมืองไทย หรือทำงานด้านนั้นๆ มาก่อนจึงจะสมเหตุสมผล เพราะเมื่อเรียน ESOL- Skills for Life จบ Level 2 วุฒิที่คุณจะได้นั้นจะเทียบเท่า ม. 6 หรือ GCSE ตามระบบการศึกษาของอังกฤษ
ทั้งนี้ การไปติดต่อกับทางวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนนั้น คุณเพียงแค่เตรียมตอบคำถามทั้ง 4 ข้อนี้ให้ดี และต้องเตรียมเอกสารในข้อ 1-3 ไปด้วย หลังจากนั้น ทางวิทยาลัยหรือมหาวิทยลัย
จะเป็นผู้ให้คำตอบเองว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะเรียน ESOL – Skills for Life  ได้ฟรีหรือไม่ แต่หากคุณต้องการส่งอีเมลไปถามก็สามารถเขียนไปได้ดังนี้

หากคุณต้องการทราบว่าคุณจะสามารถเรียน ESOL ได้ฟรีหรือไม่ คุณสามารถให้ข้อมูลส่วนตัวไปแล้วให้เขาตอบมา
I got married to the British citizen/ a settled person in เดือน/ปี in ประเทศ  Now I’ve been living in ประเทศ for จำนวนปี years. I am a jobseeker. And I hold a degree in ใส่ชื่อปริญญา. I intend to be ใส่อาชีพ after I complete the course. Am I eligible to fee waivers?
 นอกจากภาษาอังกฤษแล้วคุณสามารถลงทะเบียนเรียนเลขหรือ Numeracy ได้อีกด้วย และจะดีหากคุณมีทั้งวุฒิ Literacy (อ่านออกเขียนได้) Numeracy (คิดเลขเป็น)
สำหรับผู้ที่มีทักษะภาษาอังกฤษทั้ง  4 ด้านดีอยู่แล้ว และพร้อมที่จะทำงานได้เลยหรือไม่กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการสอบ ESOL ตัวอื่นๆ  คุณสามารถหาใบประกอบวุฒิตามระบบอังกฤษได้ 2 วิธี ดังนี้
1. คุณสามารถไปสอบ FCE, CAE, BULATS และ IELTS เพื่อนำผลสอบไปหางานระดับ professional (ปริญญา) ได้เลย เพราะการเรียน ESOL นั้น แยกเป็นระดับและทักษะ(ฟัง/พูดและอ่าน/เขียน )ใช้เวลาเรียนแต่ละระดับราว 17 สัปดาห์ ( 5-6 เดือน รวมวันปิดภาคเรียน)
2. เทียบวุฒิกับ UK NARIC ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.naric.org.uk/ แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่าย
3. ไปหางาน Voluntary work ทำเพื่อหาประสบการณ์การทำงานในอังกฤษหรือในสหราชอาณาจักร
ข้อความสำคัญ หากคุณได้เรียน ESOL ฟรี(จ่ายแค่ค่าสอบ) ตอนที่คุณลงทะเบียน คุณต้องส่งจดหมายืนยันการลงทะเบียนไปให้ทันวันเวลาที่ทางวิทยาลัยกำหนด ไม่อย่างนั้นคุณก็เสียสิทธิ์การเรียนฟรีไป ที่แย่กว่านั้น หลังจากปี 2011 การเรียน ESOL  อาจไม่ฟรีอีกต่อไป ดังนั้นหากใครมีโอกาสก็ต้องคว้าไปเสียตั้งแต่ตอนนี้นะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง


Comments

Popular posts from this blog

ตัวอย่างแผนการเดินทางท่องเที่ยวอังกฤษและประเทศในสหราชอาณาจักร Trip Itinerary

ตัวอย่างแผนการเดินทางอังกฤษและประเทศในสหราชอาณาจักร Itinerary และดาวน์โหลดฟรี   โดย Aphrodite แผนการเดินทางท่องเที่ยวหรือ Itinerary นั้นครอบคลุมเอกสารต่อไปนี้ 1. B ookings or tickets for any excursions, trips and outings ใบจอง ตั๋ว ทัศนาจร การเดินทางระยะยาวและการเดินทางท่องเที่ยวระยะสั้น การเดินทางระยะยาวและแบบวันเดียว 2. E- mail conversations about any excursions, trips and outings อีเมลที่แสดงถึงการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวระยะสั้น การเดินทางระยะยาวและแบบวันเดียว 3. T ravel agent bookings ใบจองการเดินทางจากตัวแทนบริษัทจัดทัวร์ (หากไปกับทัวร์) ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองหรือเพื่อนนำเที่ยว ควรมีการเขียนแผนการเดินทาง Trip Itinerary   อย่างคร่าวๆ เอาไว้ด้วย นอกจากนั้น การเขียนแผนการเดินทางท่องเที่ยวนั้นไม่มีรูปแบบที่ตายตัวแต่อย่างใด คุณสามารถออกแบบเองได้ วันนี้ Aphrodite ออกแบบแผนการเดินทางท่องเที่ยวสถานที่ที่น่าสนใจในลอนดอนมาให้ดูเป็นตัวอย่าง คุณสามารถ Copy รายละเอียดไปจากบล้อก หรือหากต้องการดาวน์โหลดตัวอย่างก็สามารถคลิกที่ลิงก์ข้างล่างได้ 

Free Thai - English Translation ประโยคนี้เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า

บล้อกนี้ เป็นการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนประโยคภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษค่ะ   โดย Aphrodite เริ่มกันที่ประโยคว่า ฉันจะพาแม่ไปหาหมอ ภาษาพูด/เขียนแบบทั่วไป หากต้องการพูดหรือเขียนข้อความสั้นๆ เช่น SMS หรือ จดหมายส่วนตัวถึงเพื่อน หรือคนสนิท สามารถพูดหรือเขียนได้ว่า I'm taking my mum to see a doctor. หรือ ใน UK อาจพูดว่า I’m taking my mum to see a GP . ภาษาเขียนอย่างเป็นทางการ หากต้องการเขียนอย่างเป็นทางการ เช่น จดหมาย หรือการกรอกวีซ่าออนไลน์ สามารถเขียนได้ว่า I would like to take my mother to the UK for private medical treatment. ในกรณีที่ต้องการพาคุณแม่มารับการรักษาจากโรงพยาบาลเอกชนในสหราชอาณาจักร หากใครติดขัด หรือไม่มั่นใจ ว่าจะสื่อสารประโยคภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไร สามารถ นำมาถามไว้ที่นี่ได้ โดยไม่มีค่าบริการค่ะ Aphrodite

UK Visa Invitation Letter Forms for Visit Visas (Sample)

UK Visa ตัวอย่างจดหมายเชิญประกอบการขอวีซ่าท่องเที่ยว UK Visa Invitation Letter Forms for Visit Visas (Sample) คุณสามารถเป็นผู้ติดตามอ่านบล็อก( Follower) ผ่านทางอีเมล บัญชีเฟสบุ๊ค และ Twitter เพื่อติดตามบทความใหม่ๆ ได้ ฟรี UK Visa ตัวอย่างจดหมายเชิญประกอบการขอวีซ่าท่องเที่ยว UK Visa Invitation Letter Forms for Visit Visas (Sample) การออกจดหมายเชิญหรือ Invitation Lette r นั้น มีรูปแบบที่ไม่เป็นทางการ นั่นหมายความว่า คุณสามารถร่างจดหมายขึ้นมาเองได้ เช่น อย่างที่ Aphrodite ทำไว้ในบทความนี้ อย่างไรก็ดี หากคุณหรือคนออกจดหมายเชิญต้องการทำเอง คุณควรมั่นใจว่า ในจดหมายนั้น ควรมี รายละเอียด ดังนี้ 1.       หมายเลขพาสปอร์ตของผู้สมัครวีซ่า (Passport No. of applicant) 2.       หมายเลขพาสปอร์ตของผู้ออกจดหมายเชิญ (Passport No. of host) 3.       ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ออกจดหมายเชิญและผู้สมัคร (Explain about a relationship between a host and an applicant) 4.       จุดประสงค์เฉพาะในการเชิญ (หากมี) เช่น มาร่วมงานแต่งงาน งานรับปริญญา เป็นต้น (Purpose of invitation if th